
(ภาพ: อาจารย์ทิม ธัมมธโร ขณะกำลังบริกรรมคาถาในพิธีเททองหล่อพระเครื่องหลวงพ่อทวด
ปี 2505โดยมีนายอนันต์ คณานุรักษ์ ยืนอยู่ด้านหลัง, ภาพนี้ถ่ายโดยนายจำเริญ วัฒนายากร)
ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่จังหวัดปัตตานี รถไฟสายใต้จากหาดใหญ่ไปสุไหงโก-ลก ต้องขนทหารและสัมภาระผ่านหน้าวัดช้างให้วันละหลายๆ เที่ยวและหลายๆขบวน ทำให้ประชาชนขวัญเสียหวาดกลัวภัยสงคราม ท่านพระครูวิสัยโสภณ หรือ พระอาจารย์ทิม ต้องรับภาระหนัก คือต้องจัดหาอาหารและที่พักแก่ผู้ที่เดินทางผ่านวัดไม่เว้นแต่ละวัน นับเป็นผู้ทรงคุณธรรมที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาตั้งแต่ต้น
เมื่อครั้งที่ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ท่านไปอยู่ที่ วัดช้างให้ใหม่ๆนั้น วัดช้างให้อยู่ในสภาพที่ถูกทิ้งร้างทรุดโทรม อาจารย์ทิม ท่านได้ริเริ่มตกแต่งสถูปที่บรรจุอัฐิหลวงปู่ทวดให้เป็นที่น่าเคารพบูชา พระครูวิสัยโสภณ ท่านได้ดำริที่จะสร้างพระอุโบสถ โดยท่านได้ร่วมกับนายอนันต์ คณานุรักษ์ จัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด โดยทำพิธปลุกเสกมีพระครูวิสัยโสภณ หรือ อาจารย์ทิม วัดช้างให้ เป็นประธานในพิธีและนั่งปรก ได้เงินจากผู้มีจิตศรัทธาที่มาเช่าพระเครื่องหลวงปู่ทวดได้นำเงินมาสร้างพระอุโบสถ และปรับปรุงบริเวณวัดช้างให้
พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) ได้เริ่มอาพาธด้วยโรคมะเร็งที่หลอดอาหารตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๐ และ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ได้มรณภาพเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๒ แม้ว่า พระครูวิสัยโสภณแห่งวัดช้างให้ได้มรณภาพไปนานแล้ว แต่สิ่งที่ พระอาจารย์ทิมท่านสร้างไว้อาทิเช่นพระอุโบสถ วิหารสำหรับประดิษฐานหลวงปู่ทวด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมาเคารพสักการะ สถูปที่บรรจุอัฐิธาตุของหลวงปู่ทวดที่ติดกับทางรถไฟสายใต้ กุฏิสำหรับเป็นที่อาศัยของพระเณร กุฏิเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ศาลาการเปรียญตลอดถึงวัตถุต่างๆ ที่มีอยู่ในวัดช้างให้ โรงเรียนวัดช้างให้หลังคาทรงเรือนไทยเป็นตึก ๒ ชั้น ติดกับทางรถไฟหน้าวัด พระเจดีย์องค์ใหญ่ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางวัดช้างให้ ฯลฯ ล้วนสำเร็จด้วยความมุมานะของท่านอาจารย์ทิม(พระครูวิสัยโสภณ ทิม)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น