วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตุ๊กแกหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆสิตาราม



ตุ๊กแกหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆสิตาราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ตุ๊กแกเป็นเครื่องรางที่ขึ้นชื่อของท่านว่ากันว่าเวลาที่หลวงพ่อท่านปลุกเสกนั้นถึงกับต้องกางมุ้งปลุกเสกกันเลยทีเดียว เพราะเหล่าบรรดาตุ๊กแกของท่านนั้นจะปลิวว่อนเต็มมุงไปหมด ส่วนพุทธานุภาพนั้นเท่าที่เคยได้สดับรับฟังมาคือเด่นทางเมตตามหานิยม ป้องกันและเตือนภัยก่อนที่จะมีเหตุร้ายเกิด

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

หลวงพ่อเงินปี15 วัดท้ายน้ำ



หลวงพ่อเงิน 15 วัดท้ายน้ำ เป็นพระเนื้องทองเหลืองสร้างโดยวิธีปั้มลอยองค์ สร้างและเข้าพิธีเดียวกันกับวัดบางคลานครับ นักสะสมพระแถวบางมูลนาก โพทะเล นิยมเล่นหากันมี 4 พิมพ์ดังนี้ครับ เรียงตามค่านิยม..ครับ
1.พิมพ์หน้ายักษ์ ก้นอุ มีแบบกะหลั่ยทอง กับชุบนิเกิ้ล
2.พิมพ์หน้าหนุ่มฐานสูง มีแบบกะหลั่ยทองกับชุบนิเกิ้ล
3.พิมพ์หน้าหนุ่มฐานเตี้ย กะหลั่ยทอง
4.พิมพ์หน้าแก่ กะหลั่ยทอง

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คาบูชาพระสิวลี


คาถาพระสีวลี
สีวะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี เถระคุณัง เอตัง โสตถิ ลาภัง ภะวันตุ เมฯ

คาถาพระสีวลี คาถาบูชาพระสีวลี หัวใจพระสีวลี

....นะชาลีติ...

คาถาพระสีวลี ท่องตอน ติดต่อพูดคุยกับลูกค้า คุยกับผู้ใหญ่ ติดต่องานการ

"นะชาลีติ ประสิทธิลาภา"

ประวัติพระสีวลีเถระ


ประวัติพระสีวลีเถระ
พระสีวลีเถระ เป็นพระมหาเถระที่มีประวัติค่อนข้างแปลกไปกว่าพระมหาเถระองค์อื่น ๆ ท่านต้องอยู่ในครรภ์พระมารดาอยู่ถึง ๗ ปี กับอีก ๗ วัน ด้วยอำนาจบุรพกรรมตามมาส่งผล และพระพุทธองค์ทรงยกย่องให้เป็นตำแหน่งเอตทัคคะในบรรดาภิกษุผู้เลิศด้วยลาภ และเลิศด้วยยศทั้งหลาย ในศาสนาของพระองค์ แม้พระมารดาคือ พระนางสุปฺปวาสา ผู้เป็นราชบุตรีของเจ้าโกลิยะ.ก็ทรงเป็นเอตทัคคะผู้กว่าพระสาวิกาทั้งหลายผู้ถวายสิ่งของอันประณีต การที่พระพุทธองค์ได้ทรงยกย่องท่านในตำแหน่งเอตทัคคะดังกล่าวก็เป็นไปตามความปรารถนาของท่านมาแต่ในอดีต

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตำนานชูชก


ปรากฏในมหาเวสสันดรชาดก พระเวสสันดรอันเป็นชาติสุดท้ายของการสั่งสมบารมีเพื่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต

ชูชกเป็นพราหมณ์อยู่ในเมืองกลิงคราษฎร์ เที่ยวท่องขอทานไปทั่ว และด้วยนิสัยประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักอดออม เงินที่ขอเขามาเก็บไว้จึงมากมายเข้าขั้นเศรษฐี ชูชกนำไปฝากเพื่อนพราหมณ์ไว้

ครั้นเมื่อกลับไปทวงถาม ปรากฎว่าเพื่อนได้ใช้เงินหมดไปแล้ว เลยยกลูกสาวคือนางอมิตดาวัยแรกรุ่นสวยงามให้แทน

ทั้งที่ชูชกมีรูปร่างอุบาทว์อัปลักษณ์ยิ่งนัก แต่นางอมิตดาก็ขยันปรนนิบัติสามีเป็นอย่างดี นางตักน้ำ ตำข้าว หุงหาอาหาร ดูแลบ้านเรือนไม่มีขาดตกบกพร่อง ความประพฤติที่ดีเพียบพร้อมของนางอมิตดาทำให้เป็นที่สรรเสริญของบรรดา พราหมณ์ทั้งหลายในหมู่บ้านนั้น ในไม่ช้า บรรดาพราหมณ์เหล่านั้นก็พากันตำหนิติเตียนภรรยาของตนที่มิได้ประพฤติตนเป็น แม่บ้านแม่เรือนอย่าง นางอมิตดา

ทำให้พวกภรรยาพราหมณ์อิจฉาริษยามาคอยด่าทอนางอมิตดาอยู่ทุกวัน

นางอมิตดามาเล่าให้ชูชกฟัง ชูชกจึงบอกว่าต่อไปนี้นางไม่ต้องทำการงานสิ่งใด ชูชกจะเป็นฝ่ายทำให้ทุกอย่าง นางอมิตดาจึงว่า ..

"ภรรยาที่ดีจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร จะปล่อยให้สามีมาปรนนิบัติรับใช้ เราทำไม่ได้หรอก ลูกหญิงที่พ่อแม่อบรมสั่งสอนมาดี ย่อมจะไม่นั่งนอนอยู่เฉยๆ ดีแต่ชี้นิ้วให้ผู้อื่นปรนนิบัติตน นี่แน่ะ ชูชก ถ้าท่านรักเราจริง ท่านจงไปหาบริวารมาปรนนิบัติรับใช้เราดีกว่า"

ชูชกได้ฟังดังนั้นก็อัดอั้นตันใจ ไม่รู้จะไปหาข้าทาสหญิงชายมาจากไหน นางอมิตดา จึงแนะว่า

"ขณะนี้ พระเวสสันดรเสด็จออกมาจากเมืองสีพี มาทรงบำเพ็ญพรตอยู่ในป่า พระองค์เป็นผู้ใฝ่ในการบริจาคทาน

ท่านจงเดินทางไปขอบริจาคพระชาลี กัณหา โอรสธิดาของพระเวสสันดรมาเป็นข้าทาสของเราเถิด"

ชูชกจึงไปทูลขอ พระโอรสธิดาเพื่อเป็นข้าช่วงใช้ของตน พระเวสสันดรทรงมีพระทัยยินดีที่จะทรงกระทำบุตรทาน

คือ การบริจาคบุตรเป็นทานเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น

เมื่อได้ตัวพระชาลี กัณหา แล้วระหว่างเดินทางกลับบังเอิญผ่านไปหน้าที่ประทับพระเจ้าสญชัยทรงทอด พระเนตรเห็นพระนัดดาทั้งสองก็ทรงจำได้ จึงให้เสนาไปพาเข้ามาเฝ้า ชูชกทูลว่า พระเวสสันดรทรงบริจาคพระชาลีกัณหาให้เป็นข้าทาสของตนแล้ว

พระเจ้าสญชัยก็โปรดให้เบิกสมบัติท้องพระคลังมาไถ่ตัวพระนัดดาจากชูชก และโปรดให้จัดข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงดูชูชก

ชูชกพราหมณ์เฒ่าขอทาน ไม่เคยได้บริโภคอาหารดีๆ ก็ไม่รู้จักยับยั้ง บริโภคมากจนทนไม่ไหว ถึงแก่ความตายในที่สุด

คาถาบูชาชูชก(พ่อปู่ชูชก)

คาถาบูชาชูชก (พ่อปู่ชูชก)
นะโม 3 จบ
อิติ สุคะโต ชะนาสุโภ ชูชะโก สุคะโต อิติอธิฐานแล้วมีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ มีโชคมีลาภมิขาดสายหายจากความยากจน

นะโม3จบ
อุล ลุม ปะ ฐะ มัง ภันเต ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทุเรหิวา สมิเปหิวาเถรัสสะ อานุภาเวนะ สทาโหติ ปิยังมะมะ

เมื่อว่าคาถาบูชาชูชกนี้จบแล้วก็ให้อธิฐานถึง " พ่อปู่ชูชก " ให้ช่วยเหลือ ในสิ่งที่คุณปรารถนา ในไม่ช้าอำนาจแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ จะดลบัลดาลให้สำเร็จสัมฤทธิ์ผลทุกประการแลฯ

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สำนึกของผู้ที่เลี้ยงกุมารทอง

สำนึกของผู้ที่เลี้ยงกุมารทอง
1.คุณต้องระลึกไว้เสมอว่ากุมารนั้นคือลูกของคุณ เสมือนคนจริงๆ
2.หมั่นหาของเล่นขนมมาให้เค้า (หากเราสมหวังจากการขอพรของเรา)
3.หมั่นคุยกับเค้า (บ่อยๆได้ยิ่งดี เดนผ่านหิ้งเขาก็พูดแต่สิ่งดีๆกับเขา)
4.หากเบื่อแล้วคิดจะลิกเลี้ยง นันควรนำเขาไปปล่อยโดยให้ผู้ที่มีพลังจิต หรือพระปลดปล่อยเขาไป
**หากมีโอกาสใส่บาตรหรือทำบุญ ก็ควรกรวดน้ำให้ กุมารทองด้วย เขาจะมีพลังมากขึ้นและได้อานิสงค์จากเรา**

ของถวายที่กุมารทองที่ชอบ

ของถวายที่กุมารทองชอบมีดังนี้ (ให้จุดธูปบอกเวลาถวายทุกครั้ง)
-น้ำแดง,น้ำสี,น้ำผลไม้ (แล้วแต่จะตกลงให้กี่ขวดต่อสัปดาห์)
-กล้วยน้ำว้า ขนมโบราณ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ขนมปังไส้ต่างๆ
-ผลไม้มีรสหวาน มีสีสันน่ารับประทาน
-น้ำเปล่า *ห้ามขาดจากหิ้ง*

**วันพระหรือวันไหนที่สะดวก ให้เรานำข้าวปลาอาหาร หรือขนม หรือผลไม้ ดอกไม้ มาบูชาเค้า แล้วบอกกล่าวเขาให้ช่วยกันหาเงินหาทอง เฝ้าบ้านดูแลคนในบ้าน ขาดเหลืออะไรบอกพ่อ(แม่)นะ หรือขอพรจากเขา**

วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2553

คาถาสำหรับเรียกกุมารทองและทำให้กุมารเก่งกล้า




1.คาถาปลุกเรียกกุมารทองฯ

.....กุมารัง นะกุมารีนัง อุติอุนิ นะอังอิติ พุทโธฯ


2.คาถาบูชากุมารทอง (สำหรับบูชาทำให้เก่งกล้า)

(นะโม 3 จบ)

"นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ จะภะกะสะ จิเจรุนิ

นะออแอ โมออแอ พุทออแอ ธาออแอ ยะออแอ

มะอะอุ พุทธะสังมิ อิติกุมาโร ประสิทธิเม"

คาถาปลุกและบูชากุมารทอง สูตรของหลวงพ่อแย้ม



นะโม (3จบ)


"พุทธัสสะบูชา ธัมมัสสะบูชา สังฆัสสะบูชา ปติปติบูชา ภะวันตุเม"


อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขอไหว้ตุ๊กตาทอง ขอจมมาบังเกิดอยู่ในจักขุทวาร ในมโนทวาร ในกายทวาร แห่งข้าพเจ้า ขอเดชะ ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญกุศลมาแต่ เอนกอนันทชาติ เกิดด้วยตุ๊กตาทอง ลาภประการจงมาบังเกิดแก่ข้าพเจ้าทั้ง8ทิศ เนืองๆ จงมาทุกวันอย่าได้ขาดสักการะนั้นเลย ให้เหมือนองค์ตุ๊กตาทองนั้นเถิด"


แล้วกราบลง3ที


**เป็นเสร็จพิธี**

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ขั้นตอนเมื่อเราได้กุมารมาแล้ว

1.ให้เราจัดตั้งชื่อกับเขาได้แก่ดังนี้
1.1ชื่อที่เน้นโชคลาพเช่น ทองมา เรียกทรัพย์ พลูเงิน พลูทอง ทองไหลมา เป็นต้น
1.2ชื่อที่เน้นทางดุดัน เฝ้าบ้าน แคล้วคลาด เช่น ชัย เพชรมั่น คง กล้า แกร่ง เป็นต้น

2.ก่อนนำเข้าบ้นให้ทำดังนี้
2.1หาที่ตั้งให้เหมาะสมโดย ไม่อยู่สุงกว่าพระ หรือ ต่ำติดพื้น และไม่ควรหันหน้าไปทาง ทิศตะวันตก
2.2จุดธูปกลางแจ้ง16ดอก บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางดังนี้
"ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิฐานบอกกล่าวแด่ พระภูมิ เจ้าที่ ผีปู่ ผีย่า ผีตา ผียาย ผีเหย้า ผีเรือน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ อยู่ในสถานที่แห่งนี้ วันนี้ข้าพเจ้าได้นำ เจ้า........เข้ามาเลี้ยงถายในบ้าน เพื่อให้เจ้า........เฝ้าทรัพย์สิน ให้โชคลาภ ขอให้พระภูมิเจ้าที่ ผีปู่ ผีย่า ผีตา ผียาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเปิดทาให้เจ้า.......เข้ามาอู่อาศัยในบ้านได้สะดวกด้วยเถิด"
2.3เมื่อทำการเปิดทางให้กลับเจ้ากุมารลูกของคุณแล้ว ให้นำกุมารมาตั้ง ณ ที่ที่เตรียมไว้ จัดหาดอกไม้
และน้ำแดง 1 ขวด แล้วจุดธูปบอกกุมาร โดยพราย 1 ดอก/ เทพ 5 ดอก แล้วท่องว่า
"กุมารัง นะกุมารีนัง อุติอุนิ นะอังอิติ พุทโธฯ
"เจ้ากุมารทองของพ่อเอ๋ย ต่อไปนี้เจ้าชื่อ..... และต่อไปนี้คนนี้คือพ่อ(แทม่)ของเจ้า พ่อ(แม่)จะเรียกเจ้าว่า.....มาอยู่ที่บ้าน ให้ช่วยกันดูแลบ้านเฝ้าบ้านให้ดี ช่วยกันทำมาหากินนะ แล้วพ่อ(แม่)จะซื้อของเล่นให้ เวลาพ่อ(แม่)ไปไหนก็ไปกัน เวลากินอะไรก็กินกันนะ ไม่ต้องรอให้พ่อ(แม่)อนุญาต อยากได้อะไรมาบอกพ่อน่ะ"(หากมีกุมรอยู่แล้วให้กล่าวเพิ่มว่า เจ้า...(ชื่อกุมารองค์เดิม)..วันนี้พ่อ(แม่)นำ น้องเค้ามาอยู่ด้วนนะ อยู่ด้วยกันรักกันนะช่วยกันดูแลบ้าน หาเงินหาทองอย่าทะเลาะกันนะ)

กุมารทอง

กุมารทองที่จะเลี้ยงมี2ลักษณะ
1.กุมารเทพ
ข้อดี
-เราไม่ต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบ
-ไม่ให้โทษแก่ผู้เลี้ยงเมื่อเราไม่เซ่นดูแล
ข้อเสีย
-เมื่อบนบาลอะไรแล้วได้ผลช้าหน่อย
-ไม่ค่อยแสดงฤทธิ์เดชให้เห็น
2.กุมารพราย
ข้อดี
-แสดงฤทธิ์บ่อยๆ
-ได้ผลเร็วมื่อบนบาลแล้ว
ข้อเสีย
-ต้องเซ่นเลี้ยงด้วยอาหารหยาบอย่างขาดมิได้
(ยกเว้นบางตำหรับ)
-หากขาดการเซ่นเลี้ยงแล้วอาจให้โทษแกผู้เลี้ยงได้
(ยกเว้นแต่อาจารย์ผู้สร้างนั้นกำกับมาดี)
**อาหารหยาบก็คือ ขนม น้ำแดง นม ผลไม้ เป็นต้น**

วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

พ่อกับตาเสีย

เมื่อวันที่27ผมกับป้านั่งรถไฟไปเยี่ยมพ่อผมที่โรงพยาบาลจังหวัดแพร่ ท่านอาการดีขึ้นมาก ผมไม่คิดว่านี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ดูแลพ่อ ผมนอนโรงพยาบาล1คืน และต้องรีบกลับเพื่อมาทำงานในวันจันทร์ ผมบอกพ่อว่าถ้าพ่อหายดีผมจะพาไปกินหัวปลาหม้อไฟที่พ่อชอบ ผมมาถึงกรุงเทพเช้าวันอาทิตย์ที30 และตอนบ่ายทางบ้านก็โทรมาบอกว่าพ่ออาการทรุด ประมาณ6โมงแม่และพวกป้าเอาพ่อกลับไปไว้ที่บ้าน เพราะพ่อผมบอกว่าอยากกลับไปตายที่บ้าน เวลาประมาณทุ่มกว่าผมกลับมาที่ห้อง แล้วก็ได้กลิ่นยาเหมือนที่โรงพยาบาล ผมรู้ทันทีว่าพ่อได้มาหาผมแล้ว ผมจึงจุดธูป16ดอกและวางพวงมาลัย1พวงที่หน้ารูปพ่อ พ่อผมมีองค์ปู่ขุนอิน ผมได้บอกกับพ่อว่าผมรักพ่อ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมจะดูแลแม่เอง ขอให้พ่อไปสู่สุขติ(น้ำตามันไหลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน) และก็สวดมนต์ทั้งน้ำตา จากนั้นผมก็โทรไปบอกที่บ้านว่าพ่อมาหาบอลแล้ว ป้าบอกพ่อหายใจเบาแล้ว หลังจากวางสายประมาณ5นาที ป้าก็โทรมาบอกว่าพ่อเสียแล้ว.........
วันที่13มิถุนายนผมได้ข่าวร้ายอีกครั้ง ป้าโทรมาบอกว่าตาเสีย ผมเสียใจมาก ผมเคยอยู่กับตาจนจบป.3แล้วก็เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพ และผมจะกลับไปหาตาทุกๆปิดเทอมและทุกเทศกาล ผมยังคงจำวัยเด็กที่ได้อยู่กับตาและยายได้ดี ยายผมเสียตอนผมอยู่ป.6... ตาผมจะเผาในวันที่17นี้
ขอให้พ่อกับตาไปสู่สุขติ รักและคิดถึงเสมอ......บอล

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว


ชื่อ นายมงคล กลิ่นฉุย รหัส 5134408023 เตรียมฝึก M3

เบอร์โทร 085-0761419

อีเมล์ bodyslam_ball@hotmail.com

เกรดเฉลี่ยสะสม 2.46